10 แทคติกยอดฮิต พิชิตแชมป์ ยูโร 2024

ติดตามอัพเดท ฟุตบอลยูโร 2024 ไม่ว่าจะเป็นข่าวสาร และข้อมูลที่น่าสนใจก่อนใคร!

10 แทคติกยอดฮิต พิชิตแชมป์ ยูโร 2024

ในโลกของฟุตบอล ทักษะของนักเตะแต่ละคนเปรียบเสมือนอาวุธทรงพลัง แต่หากขาดกลยุทธ์ที่ชาญฉลาด เปรียบเสมือนมีมีดแต่ไม่รู้วิธีใช้ ฟุตบอลยูโร ก็ถือเป็นอีกหนึ่งเวทีการประชันฝีเท้าของเหล่าสุดยอดนักเตะระดับโลก โดยนอกจากทักษะเฉพาะตัวของผู้เล่นแล้ว กลยุทธ์การจัดวางตัวผู้เล่นบนสนาม ก็มีบทบาทสำคัญไม่แพ้กัน

บทความนี้จะพาทุกท่านไปสัมผัสกับ 10 แทคติกยอดฮิต พร้อมวิเคราะห์จุดเด่น จุดด้อย และยกตัวอย่างทีมที่ใช้แทคติกเหล่านี้ได้ประสบความสำเร็จ ซึ่งอาจจะนำพาทีมของคุณสู่ชัยชนะในศึกยูโร 2024 อันใกล้นี้ก็เป็นได้

สมัครง่าย

ใช้แค่เบอร์มือถือและบัญชีธนาคาร

สมัครสมาชิกเลย!

แทคติกการเล่นฟุตบอล : กลยุทธ์สู่ชัยชนะ

ในศึกยูโร 2024 เปรียบเสมือนสมรภูมิที่เต็มไปด้วยการต่อสู้และกลยุทธ์ เป้าหมายสูงสุดของทีมฟุตบอลทุกทีมคือการคว้าชัยชนะ และหนึ่งในกุญแจสำคัญที่นำไปสู่ชัยชนะคือ “แทคติกการเล่นฟุตบอล” หรือ “แผนการเล่นฟุตบอล”

แผนการเล่นฟุตบอล เปรียบเสมือนแผนที่นำทาง บอกตำแหน่งหน้าที่ของผู้เล่นแต่ละคน อธิบายถึงวิธีการเล่นทั้งเกมรุก เกมรับ และกลยุทธ์ต่างๆ ที่จะใช้ต่อสู้กับคู่ต่อสู้ แผนการเล่นที่ดี เปรียบเสมือนอาวุธทรงพลังที่ช่วยให้ทีมบรรลุเป้าหมาย บนเส้นทางสู่แชมป์ยูโร 2024

ยูโร 2024 นี้ แฟนบอลจะได้เห็น แทคติกการเล่นฟุตบอล ที่หลากหลายจากทีมชั้นนำของยุโรป ทีมไหนจะเป็นผู้ครอง แชมป์ยูโร 2024 ด้วย แทคติกการเล่นฟุตบอล ที่ดีที่สุดรอติดตามชมกันได้เลย!

แผนการเล่นฟุตบอล คืออะไร?

แผนการเล่นฟุตบอล คือ แนวทางการจัดวางตำแหน่งผู้เล่น กลยุทธ์การเล่น และวิธีการโจมตีและป้องกันที่ทีมฟุตบอลใช้ในแต่ละแมตช์ แผนการเล่นจะถูกออกแบบโดยโค้ช เพื่อให้เหมาะสมกับความสามารถของผู้เล่น ศักยภาพของทีม และจุดแข็งจุดอ่อนของคู่ต่อสู้

องค์ประกอบสำคัญของแผนการเล่นฟุตบอล

  • การจัดวางตำแหน่งผู้เล่น : แผนการเล่นจะบอกตำแหน่งหน้าที่ของผู้เล่นแต่ละคนในสนาม โดยแบ่งออกเป็น 3 แนวหลัก ได้แก่ แนวหลัง แนวกลาง และแนวหน้า
  • กลยุทธ์การเล่น : แผนการเล่นจะอธิบายถึงวิธีการเล่นทั้งเกมรุก เกมรับ และกลยุทธ์ต่างๆ ที่จะใช้ต่อสู้กับคู่ต่อสู้ เช่น รูปแบบการโจมตี การวางบอล การยืนตำแหน่ง การไล่บอล การดักบอล การส่งบอล ฯลฯ
  • การปรับแผนตามสถานการณ์ : แผนการเล่นที่ดี ไม่ได้ตายตัว แต่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ของเกม เช่น หากทีมกำลังเสียเปรียบ โค้ชอาจสั่งให้ถอยทีมลงมาตั้งรับ หรือหากทีมกำลังขึ้นนำ โค้ชอาจสั่งให้รุกหนักเพื่อปิดเกม

ตัวอย่างแผนการเล่นฟุตบอลที่พบบ่อย

  • 4-4-2: แผนการเล่นแบบคลาสสิก เน้นความสมดุลระหว่างเกมรุกและเกมรับ กองหลัง 4 คน กองกลาง 4 คน และกองหน้า 2 คน
  • 4-3-3: แผนการเล่นที่เน้นเกมรุก กองหลัง 4 คน กองกลาง 3 คน และกองหน้า 3 คน
  • 3-5-2: แผนการเล่นที่เน้นเกมรับ กองหลัง 3 คน กองกลาง 5 คน และกองหน้า 2 คน

การอ่านแผนการเล่นฟุตบอล

แผนการเล่นฟุตบอล มักใช้ตัวเลขและสัญลักษณ์เพื่อบอกตำแหน่งหน้าที่ของผู้เล่น ตัวอย่างเช่น 4-4-2 หมายความว่า ทีมนี้ใช้กองหลัง 4 คน กองกลาง 4 คน และกองหน้า 2 คน

  • ตัวเลขแรก: บอกจำนวนผู้เล่นในแนวหลัง
  • ตัวเลขถัดมา: บอกจำนวนผู้เล่นในแนวกลาง
  • ตัวเลขสุดท้าย: บอกจำนวนผู้เล่นในแนวหน้า
JBO logo

เดิมพันยูโร 2024 โบนัส 200% สูงสุด 12,000 บาท

อันดับ 10 : 2-3-5

ย้อนกลับไปในปี 1878 รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลเวลส์คัพ ทีม Wrexham ใช้แท็คติก 2-3-5 เพื่อรับมือกับแท็คติกสุดแปลกประหลาดของทีม Druids ที่มาในรูปแบบ 2-2-6 และชนะในที่สุด

50 ปีต่อมา ในศึก FA Cup รอบชิงชนะเลิศปี 1930 ทีม Huddersfield Town ก็ใช้แผนการเล่นแบบเดียวกัน แต่กลับแพ้ให้กับ Arsenal ที่ใช้แผน W-M ของ Herbert Chapman ซึ่งได้รับความนิยมมากขึ้นในขณะนั้น

หลังจากนั้น แท็คติค 2-3-5 ก็เริ่มหมดความนิยม ฟุตบอลได้พัฒนาไปสู่การใช้ระบบหลัง 4 และระบบกองกลาง 3 มากขึ้นแทนที่เราจะได้เห็นการใช้แผนการเล่น 3-5-2 และ 4-5-1 แทน

อย่างไรก็ตาม เป๊ป กวาร์ดิโอลา ได้ลองใช้แผนการเล่นที่พิเศษเล็กน้อยในช่วงฤดูกาลสุดท้ายที่เขาคุมทีมบาร์เซโลนา ด้วยความแข็งแกร่งและการครองบอลที่ยอดเยี่ยม พวกเขาสามารถจัดผู้เล่น 5 คนไว้ในแนวรุก และ ไม่น่าเชื่อนี่เป็นแผนเล่นที่รุกขั้นสุดที่ประสบความสำเร็จ ช่วยให้ บาร์เซโลนา คว้าแชมป์มากมายในยุคนั้นอีกด้วย 

อันดับ 9 : 4-2-2-2

จำนวนครั้งที่ใช้ : 12 ครั้ง

ลีกที่นิยมใช้มากที่สุด : ลีกเอิง ฝรั่งเศส (11 ครั้ง)

แทคติกนี้เป็นหนึ่งในระบบที่ยืดหยุ่นและคล่องตัวที่สุด การเรียกระบบนี้ว่า 4-2-2-2 อาจจะพอเข้าใจได้ แต่หัวใจสำคัญคือการเคลื่อนที่อย่างอิสระของผู้เล่นในแต่ละตำแหน่งต่างหาก (เมื่อใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ) ซึ่งจะทำให้รูปแบบการเล่นเปลี่ยนแปลงไปตลอดทั้งเกม

แนวรับ 4 คน เป็นแนวหลังมาตรฐาน : ฟูลแบ็คต้องมีความสามารถทั้งเกมรุกและรับ พวกเขาต้องเติมเกมรุกได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ก็ต้องไม่ละเลยหน้าที่ในการป้องกันด้านข้าง 

กองกลางตัวกลาง 2 คน มักจะประกอบด้วยตัวตัดเกมที่คอยสกัดกั้นการเล่นของคู่แข่ง และตัวคุมเกมที่คอยออกบอลและสร้างจังหวะให้กับทีม แต่การมีตัวคุมเกมอาจไม่จำเป็นเสมอไป ขึ้นอยู่กับความสามารถในการเคลื่อนที่และการยืนตำแหน่งของกองหน้าตัวรุกด้านใน

หัวใจสำคัญของแทคติกนี้อยู่ที่ “ปีก” ซึ่งจริงๆ แล้วทำหน้าที่เหมือนกองหน้าตัวรุกด้านใน พวกเขามีอิสระในการเคลื่อนที่ เคลื่อนที่เข้ามาด้านใน สร้างความกว้าง หรือฉีกออกไปด้านข้างตามสถานการณ์ ดังนั้น พวกเขาต้องมีเทคนิคที่ดี ความคล่องตัวสูง สามารถแยกและเอาเปรียบจุดอ่อนของคู่แข่ง ความสามารถในการอ่านเกม และการยืน ถือว่าสำคัญอย่างยิ่งสำหรับตำแหน่งนี้

ในกองหน้า 2 คน มักจะมีคนหนึ่งถอยลงมารับบอลจากกองกลางตัวกลาง ช่วยเชื่อมเกมระหว่างแดนกลางกับแดนบน ขณะที่อีกคนเป็นเป้าหมายหลักที่แนวรับคู่แข่งต้องจัดการ

ตัวอย่างทีมที่เคยใช้

ทีมชาติบราซิล: มีการใช้แผนการเล่น 4-2-2-2 มาอย่างยาวนานตลอด 100 ปีที่ผ่านมา โดยเน้นการมีกองหน้าตัวเป้า 2 คน ที่มีความคล่องตัว สามารถสลับตำแหน่งกันได้ เพื่อสร้างความสับสนให้กับแนวรับฝ่ายตรงข้าม

ยูโร 2024
เดิมพันยูโร 2024 กับ JBO Thailand คืนเงินเดิมพันครั้งแรก 100%

อันดับ 8 : 3-4-3

จำนวนครั้งที่ใช้ : 37 ครั้ง

ลีกที่นิยมใช้มากที่สุด : พรีเมียร์ลีกอังกฤษ (25 ครั้ง)

แทคติก 3-4-3 อาจจะไม่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง แต่กลับถูกเลือกใช้เป็นครั้งคราวเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีในเกมนั้นๆ ตัวอย่างที่เห็นชัดเจนคือเกม บาร์เซโลน่า ปะทะ เอซี มิลาน ที่ ยอร์ดี้ โรรา สามารถพลิกสถานการณ์จากการตามหลัง 2-0 จนกลับมาเอาชนะและเข้าสู่รอบต่อไปได้

ข้อดีของระบบ 3-4-3 คือ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับฟอร์มการเล่นของแบ็ค-วิงเพียงอย่างเดียว แม้ว่าพวกเขาจะมีบทบาทสำคัญ แต่ถ้าหากฟอร์มการเล่นตกลง ระบบนี้ก็ยังมีกองหน้าตัวต่ำ 2 คน ที่สามารถเติมเกมรุกและสร้างโอกาสยิงประตูได้

จุดอ่อนอย่างเดียวคือ หากแบ็ค-วิงแพ้ทาง คุมโซนตัวเองไม่อยู่ ทีมที่ใช้กองหลัง 3 คน อาจจะประสบปัญหาในการขึ้นเกมรุก เนื่องจากขาดความกว้าง การมีผู้เล่น 4 คน ด้านข้าง (ฝั่งละ 2 คน) ช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะไม่ถูกกักบริเวณในแดนตัวเอง

จุดเด่นของแผนการเล่นนี้ อยู่ตรงที่เซ็นเตอร์แบ็คทั้งสองข้างสามารถเติมเกมรุกขึ้นมาได้ กองกลางตัวกลางสองคนสามารถปักยาวไปทางด้านข้าง และการเชื่อมเกมกับตัวรุกริมเส้นก็จะออกมาได้อย่างสวยงาม

ตัวอย่างทีมที่เคยใช้

วีแกน แอธเลติก: ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ และ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ผู้จัดการทีมชื่อดังสายบู๊แหลก

JBO

เดิมพันยูโร 2024 โบนัส 200% สูงสุด 12,000 บาท

อันดับ 7 : 4-1-2-1-2

จำนวนครั้งที่ใช้ : 108 ครั้ง

ลีกที่นิยมใช้มากที่สุด : กัลโช่ เซเรีย อา (57 ครั้ง)

แม้จะเป็นแผนการเล่นที่ไม่ได้รับความนิยมมากนัก แต่กองกลางเพชร 4-4-2 (Midfield Diamond) หรือ 4-1-2-1-2 ก็ยังคงมีการนำมาประยุกต์ใช้ โดยในช่วง 30 ปีที่ผ่านมามีทีมที่ประสบความสำเร็จกับแผนนี้มาบ้างประปราย

จุดเด่นของแผนการเล่นนี้คือการมีกองหลัง 4 คน (ฟูลแบ็ค) แต่แบ็คทั้งสองข้างต้องเล่นเกมรุก ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางฟุตบอลสมัยใหม่ที่แบ็คทั้งสองฝั่งมักจะเติมเกมสูงอยู่เสมอ

อย่างไรก็ตาม แผนนี้ต้องการให้แบ็คมีเติมเกมรุกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะหากกองกลางตัวกลางเพียง 3 คน ไม่มีการเติมจากแบ็ค ก็จะเสียพื้นที่ตรงกลางสนามไป

แต่การที่ไม่มีตัวเติมเกมรุกจากด้านข้าง พวกเขาก็จำเป็นต้องมีมิดฟิลด์ตัวกลางที่ยืนต่ำ (เรจิสต้า) และกองกลางตัวกลางอีกสองคนที่เล่นเกมรับหนักๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ทีมเสียพื้นที่กลางสนาม

เหนือขึ้นไปจะเป็นกองกลางตัวรุกหมายเลข 10 คลาสสิค ส่วนคู่กองหน้าสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ

ตัวอย่างทีมที่เคยใช้

AC มิลาน: ยุคแชมป์มิลานของคาร์โล อันเชล็อตติ ประสบความสำเร็จจริง แต่หลังจากนั้นการประยุกต์ใช้ของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน, มิลเชีย ลูเชสคู และวอลเตอร์ มัซซาร์รี่ ต่างก็ไม่ค่อยประสบผลเท่าไหร่

อันดับ 6 : 4-4-1-1

จำนวนครั้งที่ใช้ : 181 ครั้ง

ลีกที่นิยมใช้มากที่สุด : พรีเมียร์ลีกอังกฤษ (120 ครั้ง)

แทคติกการเล่น 4-4-1-1 เป็นแผนการเล่นที่เน้นความรัดกุมและยืดหยุ่นสูง ผู้เล่นแต่ละตำแหน่งมีหน้าที่ชัดเจน แนวรับ 4 คน และกองกลาง 4 คน เป็นรูปแบบพื้นฐาน โดยปีกจะทำงานร่วมกับแบ็คตัวเองเพื่อครองริมเส้น และกองกลางตัวกลางจะไม่ใช่ตัวโจมตาล้ำหน้า (Trequartista) หรือ ตัวตัดเกม (Destroyer)

หัวใจสำคัญของแผนการเล่นนี้อยู่ตรงกองกลางตัวรุก (Attacking Midfielder) ตัวเดียว ที่อยู่ระหว่างแนวรับกับแนวรุก ซึ่งแตกต่างจากกองกลางหมายเลข 10 แบบคลาสสิค

กองกลางตัวรุกคนนี้จะมีบทบาทที่ยืดหยุ่นสูงมาก สามารถปรับเปลี่ยนตามแทคติกของผู้จัดการทีม ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในเกม ตัวอย่างเช่น เขาอาจจะขึ้นไปช่วยกองหน้า, ลดต่ำลงมาเป็นกองกลางตัวที่ 5 ทำหน้าที่เป็นตัวคิลเลอร์พาสก็ได้

ความยืดหยุ่นของกองกลางตัวรุกนี่เองที่ทำให้แผนการเล่นนี้ค่อนข้างอนุรักษ์นิยม เพราะเหมือนกับว่าทีมกำลังรออ่านทางฝ่ายตรงข้ามก่อนที่จะปรับแผนรับมือ

ตัวอย่างทีมที่เคยใช้

เอฟเวอร์ตัน, โครเอเชีย (ศึกยูโร 2006), แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (บางนัด)

ยูโร 2024
เดิมพันยูโร 2024 พร้อมทายผล กับ JBO Thailand ลุ้นรับโบนัสเพิ่มอีก 20%

อันดับ 5 : 3-5-2 (3-5-1-1)

จำนวนครั้งที่ใช้ : 182 ครั้ง

ลีกที่นิยมใช้มากที่สุด : กัลโช่ เซเรีย อา (168 ครั้ง)

แทคติกการเล่น 3-5-2 ถือเป็นระบบแทคติกที่ครองลีกอิตาลี และกำลังแพร่หลายไปทั่วยุโรป ผู้จัดการทีมหลายคนเคยทดลองใช้แผนนี้ อาทิ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส, โรแบร์โต้ มันชินี่, พอล แลมเบิร์ต และแซม อัลลาร์ดายซ์

จุดเด่นของระบบ 3-5-2 กองหลังตัวกลาง 3 คน มักจะเป็นนักเตะที่มีความแข็งแกร่งทางด้านลูกโหม่ง

ส่วนแบ็คทั้งสองข้าง จะมีความคล่องตัว เคลื่อนที่ขึ้นเติมเต็มเกมรุก สอดขึ้นไปตามช่องว่างเพื่อเปิดบอล และมีหน้าที่ในการกระจายบอล

ในขณะเดียวกัน กองกลาง มีความยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนได้ตามแทคติก กองกลางตัวต่ำสุด มีบทบาทหลากหลายตั้งแต่เป็นตัวคุมจังหวะ (Regista) อย่าง Andrea Pirlo ไปจนถึงตัวตัดเกม (Destroyer) อย่าง Esteban Cambiasso ซึ่งส่งผลต่อบทบาทของกองกลางอีก 2 คน วิงแบ็ค เคลื่อนที่ขึ้นลงตลอดแนวสนาม สร้างความกว้างให้กับเกมรุก

ตัวอย่างทีมที่เคยใช้

เราอาจจะเคยเห็นการผสมผสานรูปแบบการเล่นกองหน้าหลายแบบในช่วงฤดูกาล 2012-13 ของกัลโช่ เซเรีย อา และ ทีมที่เคยใช้แท็คติคเหล่านี้ ได้แก่ นาโปลี ยูเวนตุส และทีมชาติอิตาลี 

อันดับ 4 : 4-1-4-1

จำนวนครั้งที่ใช้ : 184 ครั้ง

ลีกที่นิยมใช้มากที่สุด : บุนเดสลีก้า (69 ครั้ง)

แทคติกการเล่น 4-1-4-1 อาจจะดูเป็นรูปแบบที่พบเห็นได้ไม่บ่อยนัก เนื่องจากต้องอาศัยผู้เล่นที่มีสไตล์การเล่นเฉพาะตัวถึงจะเล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึงวิธีการเล่นในแต่ละตำแหน่ง

กองกลางตัวตัดเกม (Holding Midfielder): จะยืนระหว่างแนวรับกับกองกลาง ทำหน้าคอยตัดเกม รุกไล่ บังบอลให้แนวรับ และกระจายบอลต่อไปยังเพลย์เมคเกอร์คนอื่นๆ อย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันก็ต้องคอยโغطให้แนวรับเวลากองหลังขึ้นสูง

กองกลาง 4 คน: ต้องเป็นนักเตะที่มีความคล่องแคล่ว ว่องไว ทั้งสองกองกลางตัวกลางจะเล่นแบบ Box-to-Box คือเติมเกมทั้งรุกและรับ ส่วนริมเส้นทั้งสองข้างจะต้องเติมเกมรุกขึ้นลงตลอดเวลา

กองหน้า: แม้แทคติกนี้จะมีภาพลักษณ์ว่าเน้นรับ แต่ในจังหวะรุก ทีมจะเหมือนมีผู้เล่นถึง 5 คน บอลจะถูกส่งให้กองหน้าเพื่อให้โอกาสกับเพื่อนร่วมทีม หรือโยนยาวไปข้างหน้าให้กองกลางที่เติมเกมขึ้นมาฉีกหนี

ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ : เคยใช้กับทีมโรม่าในปี 2007 โดยกองหน้าจะถอยลงมาต่ำ เพื่อดึงกองหลังตัวกลางของฝั่งตรงข้าม สร้างช่องว่างให้กองกลางตัวรุกที่เติมขึ้นสูง ให้สามารถมีช่องว่างโล่งโจมตีได้อย่างสะดวก

ตัวอย่างทีมที่เคยใช้

ทูลูซ ของ อแลน คาสโนวา (Alain Casanova) , โลโคโมทีฟ มอสโก (Lokomotiv Moscow) ปี 2008

อันดับ 3 : 4-3-3

จำนวนครั้งที่ใช้ : 303 ครั้ง

ลีกที่นิยมใช้มากที่สุด : กัลโช่ เซเรีย อา (113 ครั้ง)

4-3-3 คือแผนการเล่นที่เน้นเกมรุกเร็ว อาศัยความคล่องตัวสูง พละกำลังดี และความเข้าใจแทคติกของกองกลางตัวกลาง 3 คน จุดเด่นของแผนนี้คือการสร้างสมดุลระหว่างเกมรุกกับเกมรับ  โดยมีการเติมเต็มซึ่งกันและกันของผู้เล่นแต่ละตำแหน่ง 

จุดสำคัญของแผน 4-3-3

แบ็ก (Full-backs): ยิ่งกว่าการเติมเกมรุกขึ้นสูง แบ็กในแผน 4-3-3 ต้องมีความคล่องตัวสูง รุกได้ รับได้ เพราะนอกจากจะสร้างความกว้างในเกมรุก พวกเขายังต้องป้องกันไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามใช้พื้นที่ด้านข้างเป็นช่องทางในการเจาะเข้ามาทำประตูอีกด้วย

กองกลางตัวกลาง (Central Midfielders)

1 (Anchor Man): เหมือนเป็นมันสมองของแผน 4-3-3 ตัวนี้ ควบคุมจังหวะเกม ช่วยตัดเกมส์ รับบอลจากแนวรับ และกระจายบอลไปยังเพื่อนร่วมทีมได้อย่างแม่นยำ

2 (Box-to-Box): เป็นหัวใจสำคัญในการเชื่อมเกมรุกกับเกมรับ พวกเขาต้องมีทั้งร่างกายที่แข็งแกร่ง พละกำลังดี ช่วยไล่ตัดบอล ช่วยเกมรับ และขึ้นไปสนับสนุนเกมรุกได้อย่างคล่องตัว

ตัวอย่างทีมที่เคยใช้

  • ทีมชาติโปรตุเกส (ยูโร 2012) : ชุดที่ประสบความสำเร็จในการเอาชนะเยอรมัน เข้ารอบรองชนะเลิศ ยูโร 2012 โดยมีผู้เล่นอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ บรูโน่ แฟร์นานเดส เป็นแกนหลัก
  • บาร์เซโลนา (สเปน) : ในยุคที่เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เป็นผู้จัดการทีม ซึ่งเป็นยุคทองของบาร์เซโลน่า ที่เน้นการครองบอล การบุกอย่างต่อเนื่อง และการเข้าทำอย่างรวดเร็ว
  • เอฟซี ปอร์โต (ยุคที่ André Villas-Boas เป็นผู้จัดการทีม) : ชุดที่สามารถคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2003-2004 ได้สำเร็จ โดยมีผู้เล่นอย่าง ราดาเมล ฟัลเกา เป็นหัวใจสำคัญในแนวรุก

อันดับ 2 : 4-4-2

จำนวนครั้งที่ใช้ : 307 ครั้ง

ลีกที่นิยมใช้มากที่สุด : บุนเดสลีก้า (94 ครั้ง)

4-4-2 ถือเป็นระบบการเล่นฟุตบอลที่แสนคลาสสิค โดยเฉพาะกับแฟนบอลอังกฤษ ที่เคยได้รับความนิยมอย่างมาก ระบบนี้ เน้นการมีกองหลัง 4 คน กองกลาง 4 คน และ กองหน้า 2 คน โดยจุดเด่นอยู่ที่การมีคู่กองหน้าตัวเป้าที่แตกต่างกัน

โดยมีกองหน้าตัวเป้า (Target Man) ที่มีจุดเด่นเรื่องการเล่นกับบอลบนอากาศ พักบอล ค้ำบอลเก่ง คู่กับกองหน้าตัวเล็ก (Second Striker) ที่มีความคล่องแคล่ว รวดเร็ว จังหวะเท้าไว  ตัวอย่างคลาสสิคเช่น คู่ของ แอนดี้ แคร์โรลล์ (ตัวใหญ่) กับ เจอร์เมน เดโฟ (ตัวเล็ก) ในทีม นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 

ระบบ 4-4-2 เน้นการโจมตีที่รวดเร็ว อาศัยการผ่านบอลจากแนวรับสู่แนวรุกอย่างรวดเร็ว โดยอาศัยความแข็งแกร่งของกองหน้าตัวใหญ่ในการพักบอล และ การทำทางของปีก ทั้งสองข้าง  ซึ่งปีกจะมีหน้าที่เติมเต็มเกมรุกด้วยการ ลากตัดเข้าด้านใน หรือ เปิดบอลเข้าไปให้กองหน้า

ปัจจุบันแนวคิดการเล่นเกมรุก เน้นการเข้าทำจากด้านข้างน้อยลง ฟูลแบ็คมีบทบาทในการเติมเกมรุกมากขึ้น ทำให้ระบบ 4-4-2 ที่ต้องการอาศัยปีกในการเติมเต็มเกมรุกนั้น ประสบปัญหา และเนื่องจาก ฟุตบอลยุคใหม่ เน้นการครองบอล ซึ่งระบบ 4-4-2 มีกองกลางเพียงแค่ 4 คน อาจจะทำให้เสียเปรียบในการแย่งชิงพื้นที่กลางสนาม

ตัวอย่างทีมที่เคยใช้

  • ทีมชาติอังกฤษ (ยูโร 2012) แม้จะเป็นทีมชาติที่ขึ้นชื่อว่าเหนียวแน่นกับระบบนี้ แต่ปัจจุบันก็เริ่มมีการปรับเปลี่ยนไปใช้ระบบอื่นบ้างแล้ว
  • เอซี มิลาน ยุคของ อาร์ริโก ซาคคี่ : ยุคทองของ เอซี มิลาน ที่เน้นการเพรสซิ่งสูง และ การโจมตีอย่างรวดเร็ว

อันดับ 1 : 4-2-3-1

จำนวนครั้งที่ใช้ : 307 ครั้ง

ลีกที่นิยมใช้มากที่สุด : ลา ลีกา (สเปน) (432 ครั้ง)

ปิดท้ายด้วยแทคติกสุดแพรวพราวอย่าง 4-2-3-1 เหล่ากุนซือชั้นนำของวงการฟุตบอลโลกเริ่มนำฟอร์เมชันนี้มาใช้กันตั้งแต่ประมาณปี 2010 หลังจากยูโร 2012 แทบทุกทีมยกเว้นทีมชาติอิตาลีและ บาร์เซโลน่า ต่างก็ปรับเอาฟอร์เมชันนี้ไปใช้บ้าง

ด้วยความยืดหยุ่น 4-2-3-1 จึงครองตำแหน่งราชาของระบบการเล่น ฟุตบอลยุคใหม่เน้นการครองบอล การใช้กองกลางตัวรับ 2 คน (หมายเลข 6) คอยคัดบอลหน้าแนวรับ ช่วยให้ทีมรักษาการครองบอลและปกป้องแนวรับได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ฟูลแบ็กมีอิสระในการเติมเกมรุก สร้างความกว้างและช่องทางการผ่านบอล พวกเขาได้รับอิสระในการเติมเกมรุก เนื่องจากมีกองกลางตัวรับ 2 คน คอยคุมพื้นที่ด้านล่าง

หมายเลข 10 (Trequartista) ต้องมีความคล่องแคล่ว เคลื่อนที่ไปทางริมเส้น และช่วยสร้างความได้เปรียบด้านตัวผู้เล่น (overload)

กองหน้าทุกประเภทสามารถเล่นได้ดีในแทคติกนี้ ไม่ว่าจะเป็นกองหน้าตัวเป้า (Prima punta) หรือ กองหน้าตัวจบสกอร์ (Complete forward)

ตัวอย่างทีมที่เคยใช้

ชัคเตอร์ โดเน็ตส์ค, เรอัล มาดริด, โบรุสเซีย ดอร์ทมุนต์

เดิมพัน ยูโร 2024 ! รับโบนัสฟรี 200% สูงสุด 12,000 บาท

JBO Thailand ขอเสนอโปรโมชั่นสุดพิเศษ “เดิมพัน ยูโร 2024” เพียงสมัครสมาชิกใหม่และฝากเงินครั้งแรก รับโบนัสฟรีทันที 200% สูงสุด 12,000 บาท พร้อมโปรโมชั่น และสิทธิพิเศษอีกมากมาย

ยูโร 2024

โบนัสแรกเข้ากีฬา 200% สูงสุด 12,000 บาท

ยูโร 2024

โบนัสแรกเข้ากีฬา 100% สูงสุด 5,000 บาท

ยูโร 2024

โบนัสคืนเงินเดิมพันกีฬาครั้งแรก 50% สูงสุด 800 บาท

ยูโร 2024

ทายผลฟุตบอลยูโร 2024 ทีมใดจะคว้าแชมป์ รับโบนัสเพิ่ม 20%

ยูโร 2024

คืนเงินเดิมพัน ยูโร 2024 ครั้งแรก 100% 

สมัครสมาชิก JBO Thailand ง่ายๆ เพียงไม่กี่คลิก!

พร้อมสัมผัสประสบการณ์การเดิมพันสุดเร้าใจ กับ JBO Thailand สมัครสมาชิกใหม่วันนี้ รับโบนัสสุดคุ้ม! คอกีฬา ห้ามพลาด!

ขั้นตอนสมัครง่ายๆ ดังนี้

1. เข้าสู่เว็บไซต์ JBO Thailand 

2. คลิกปุ่ม “สมัครสมาชิก”

3. กรอกข้อมูลตามที่ระบบกำหนด

4. ยืนยันข้อมูลและรับโบนัสสุดพิเศษ!

พิเศษ! สมัครสมาชิกใหม่วันนี้ รับโบนัสสูงสุด 10,000 บาท

#JBO #JBOThailand #สมัครสมาชิก #เดิมพัน #โบนัส #โปรโมชั่น #สล็อต #กีฬา #คาสิโน #ออนไลน์

สมัครง่าย

ใช้แค่เบอร์มือถือและบัญชีธนาคาร

สมัครสมาชิกเลย!

ทางเข้า JBO Thailand รองรับทุกระบบ ทุกอุปกรณ์

JBO Thailand ผู้ให้บริการคาสิโนออนไลน์ครบวงจรชั้นนำระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นกีฬา คาสิโน สล็อต บาคาร่า และเกม 3 มิติ มากกว่า 1,000 เกม พร้อมมอบความสนุกสนาน ความคุ้มค่า ให้กับคุณแล้ววันนี้!

เข้าถึง JBO ได้ง่ายๆ ผ่านทุกระบบ ทุกอุปกรณ์

  • คอมพิวเตอร์ : เพียงเข้าเว็บไซต์ JBO Thailand ผ่านเบราว์เซอร์ที่คุณชื่นชอบ
  • แท็บเล็ต : เล่น JBO ได้อย่างสะดวกบนหน้าจอขนาดใหญ่
  • มือถือ : ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน JBO ได้ทั้งระบบ iOS และ Android

 

JBO APP
QR CS JBO

JBO Thailand มีอะไรพิเศษ ?

  • เกมส์ออนไลน์หลากหลาย : สล็อต คาสิโน บาคาร่า รูเล็ต เกมส์ยิงปลา และอื่นๆ อีกมากมาย
  • เดิมพันกีฬาทุกรูปแบบ : ฟุตบอล บาสเก็ตบอล เทนนิส มวย และอื่นๆ
  • โบนัสและโปรโมชันสุดคุ้ม : สมัครสมาชิกใหม่ รับโบนัสฟรี ฝากเงินครั้งแรก รับโบนัสเพิ่ม และโปรโมชันพิเศษอีกมากมาย
  • ระบบการเงินที่ปลอดภัย : ฝาก-ถอนเงินง่าย รวดเร็ว ผ่านระบบที่ปลอดภัย 100%
  • บริการลูกค้าที่ยอดเยี่ยม : ทีมงานมืออาชีพพร้อมให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง

อย่ารอช้า! สมัครสมาชิก JBO Thailand วันนี้ และเริ่มต้นประสบการณ์การเดิมพันที่เหนือระดับของคุณ

ติดตามข่าวสาร โปรโมชั่นดีๆ บทความอัพเดทใหม่ก่อนใครได้ที่นี่

Google Play

JBO รองรับระบบ Google Play

App Store

JBO รองรับ App Store

18+