วิธีดู ราคาบอล อย่างมืออาชีพ

ราคาบอล คืออะไร ? สำหรับคนที่ยังไม่เคยเข้าวงการเดิมพันฟุตบอลหรือมือใหม่ อาจจะยังไม่เข้าใจ เมื่อเราเข้าสู่ระบบของแพลตฟอร์มจะเห็นตัวเลขต่างๆมากมาย ซึ่งอาจจะทำให้สับสนว่าควรเริ่มที่ตรงไหนดี

บทความนี้จะพามาเรียนรู้ราคาฟุตบอล อัตราต่อรองบอล และราคาน้ำฟุตบอล รวมถึงการคำนวณบิลแทงบอลขั้นพื้นฐานที่เข้าใจง่าย ช่วยให้การแทงบอลของคุณมีประสิทธิภาพ และเป็นมืออาชีพมากขึ้น

ราคาบอล คืออะไร ?

ราคาบอล คืออะไร ? ราคาบอล หรือที่เรียกว่าอัตราต่อรองฟุตบอล (Odds) คือตัวเลขที่แสดงความน่าจะเป็นที่ทีมใดทีมหนึ่งจะชนะหรือแพ้

อัตราต่อรองฟุตบอลจะถูกกำหนดโดยเจ้ามือรับแทงซึ่งรับเดิมพันจากนักพนัน และเป็นผู้จ่ายเงินรางวัลให้กับผู้ชนะ

ราคาฟุตบอลมักจะแสดงในรูปแบบทศนิยม เช่น 0.80, 1.00, 1.50 เป็นต้น ตัวเลขเหล่านี้แสดงถึงอัตราการจ่ายเงิน หากคุณชนะการเดิมพัน

เช่น หากคุณเดิมพัน 100 บาท กับทีมที่อัตราต่อรอง 1.50 การเดิมพันชนะ การคำนวณการเดิมพัน (100 x 1.50) คุณจะได้รับรางวัลทั้งหมด 150 บาท

อย่างไรก็ตาม นอกจากราคาบอลแบบทศนิยมแล้ว ยังมีราคาบอลอีกหลายรูปแบบที่นิยมใช้กันในวงการแทงบอล

เช่น ราคาบอลแบบเศษส่วน (Fractional Odds) ราคาบอลแบบอเมริกัน (American Odds) และราคาบอลแบบฮ่องกง (Hong Kong Odds) เป็นต้น

ประเภทของ ราคาบอล

ราคาบอล มีอยู่หลายประเภท แต่ละประเภทมีวิธีการคำนวณที่แตกต่างกันออกไป โดยราคาบอลที่นิยมใช้กันมากที่สุดมีประมาณ 6 แบบดังนี้

1.ราคาบอล แบบทศนิยม (Decimal Odds)

ราคาบอล แบบทศนิยมเป็น ราคาบอล ที่นิยมใช้กันมากที่สุดในปัจจุบัน โดยราคาบอลแบบทศนิยมจะแสดงในรูปแบบตัวเลขทศนิยม เช่น 1.50, 2.00, 3.00 เป็นต้น

ซึ่งตัวเลขเหล่านี้บ่งบอกถึงอัตราการจ่ายเงินรางวัล หากคุณวางเดิมพันชนะทีมนั้นๆ

ตัวอย่างเช่น หากคุณวางเดิมพัน 100 บาท ในทีมที่มีราคาบอล 2.00 และทีมนั้นชนะ คุณจะได้รับเงินรางวัล 200 บาท (100 x 2.00)

2.ราคาบอล แบบเศษส่วน (Fractional Odds)

ราคาบอล แบบเศษส่วนเป็น ราคาบอล ที่นิยมใช้กันในสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์ โดยราคาบอลแบบเศษส่วนจะแสดงในรูปแบบเศษส่วน เช่น 1/2, 3/4, 5/6 เป็นต้น

ซึ่งตัวเลขเหล่านี้บ่งบอกถึงอัตราการจ่ายเงินรางวัล หากคุณวางเดิมพันชนะทีมนั้นๆ

ตัวอย่างเช่น หากคุณวางเดิมพัน 100 บาท ในทีมที่มีราคาบอล 1/2 และทีมนั้นชนะ คุณจะได้รับเงินรางวัล 200 บาท (100 x 2)

3.ราคาบอล แบบอเมริกัน (American Odds)

ราคาบอล แบบอเมริกันเป็น ราคาบอล ที่นิยมใช้กันในสหรัฐอเมริกา โดยราคาบอลแบบอเมริกันจะแสดงในรูปแบบตัวเลขที่มีเครื่องหมาย + หรือ – อยู่ข้างหน้า

เช่น +150, -200, +300 เป็นต้น ซึ่งตัวเลขเหล่านี้บ่งบอกถึงอัตราการจ่ายเงินรางวัล หรือจำนวนเงินที่คุณต้องวางเดิมพันเพื่อรับเงินรางวัล 100 บาท

ตัวอย่างเช่น หากคุณวางเดิมพัน 100 บาท ในทีมที่มีราคาบอล +150 และทีมนั้นชนะ คุณจะได้รับเงินรางวัล 250 บาท (100 + 150)

4.ราคาบอล แบบฮ่องกง (Hong Kong Odds)

ราคาบอล แบบฮ่องกงเป็น ราคาบอล ที่นิยมใช้กันในประเทศจีนและฮ่องกง โดยราคาบอลแบบฮ่องกงจะแสดงในรูปแบบตัวเลขทศนิยม เช่น 0.50, 1.00, 1.50 เป็นต้น

ซึ่งตัวเลขเหล่านี้บ่งบอกถึงอัตราการจ่ายเงินรางวัล หากคุณวางเดิมพัน 100 บาทในทีมนั้นๆ

ตัวอย่างเช่น หากคุณวางเดิมพัน 100 บาท ในทีมที่มีราคาบอล 1.50 และทีมนั้นชนะ คุณจะได้รับเงินรางวัล 150 บาท (100 x 1.50)

5.ราคาบอล แบบมาเลย์ (Malaysian Odds)

ราคาบอล แบบมาเลย์ คืออัตราต่อรองประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการเดิมพันฟุตบอลออนไลน์

เนื่องจากค่าน้ำช่วยป้องกันไม่ให้การเดิมพันของคุณได้รับการสูญเสียทั้งหมด ราคาน้ำมาเลเซียมี 2 แบบ ดังนี้

ราคาน้ำแดง

จะปรากฏเป็นสีแดงและมีเครื่องหมายลบในราคาพนันฟุตบอล นี่คือราคาน้ำแดงหากคุณเดิมพันชนะ

คุณจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนเป็นกำไรสองเท่าของทุน แต่หากแทงผิดจะเสียเงินเดิมพันเท่ากับราคาน้ำ

เช่น หากคุณเดิมพัน 500 บาท ที่ราคาน้ำแดง -0.62

หากชนะการเดิมพัน คุณจะได้รับเงิน 1,000 บาท

แต่ถ้าหากคุณแพ้เดิมพัน คุณจะเสียเงินเพียง 62 บาทเท่านั้น

ราคาน้ำดำ

จะแสดงเป็นสีดำบนตารางอัตราต่อรองพนันฟุตบอล นี่คือราคาน้ำดำ

หากคุณเดิมพันชนะ คุณจะได้รับเงินลงทุนคืนและกำไรตามราคาน้ำ

หากเดิมพันผิด คุณจะเสียเงินเดิมพันทั้งหมด เช่น

หากคุณเดิมพัน 500 บาท ที่ราคาน้ำดำ 0.79

หากชนะการเดิมพัน คุณจะได้รับเงิน 500×0.79 = 395 บาท

แต่ถ้าหากคุณแพ้เดิมพัน คุณจะเสียเงินเดิมพันทั้งหมด

6.ราคาบอล แบบอินโด (Indonesian Odds)

ราคาบอลแบบอินโด คล้ายราคาบอลมาเลย์ แต่มีข้อแตกต่าง คือ มีอัตราได้เสียสูงกว่าเงินเดิมพัน แบ่งเป็น 2 แบบ ดังนี้

ราคาน้ำแดง

ราคาน้ำแดงแสดงเป็นตัวเลขติดลบสีแดง หากคุณแทงถูก คุณจะได้รับเงินตามยอดเงินเดิมพัน

แต่หากคุณแทงผิด คุณจะเสียเงินตามอัตราค่าน้ำ ซึ่งมากกว่ายอดเงินเดิมพัน

เช่น ถ้าคุณแทงเดิมพันที่มีอัตราค่าน้ำ -1.44 ทุน 100 บาท ถ้าคุณแทงถูก คุณจะได้รับเงิน 100 บาท

เท่ากับยอดเงินเดิมพัน แต่หากคุณแทงผิด คุณจะเสียเงิน 1.44×100 = 144 บาท ซึ่งมากกว่ายอดเงินเดิมพัน

ราคาน้ำดำ

ราคาน้ำดำคือรูปแบบที่แสดงเป็นตัวเลขสีดำ หากคุณแทงถูก คุณจะได้รับเงินตามอัตราค่าน้ำที่กำหนด

แต่หากคุณแทงผิด คุณจะเสียเงินเต็มจำนวนตามที่คุณแทง

เช่น ถ้าคุณแทงเดิมพันที่มีอัตราค่าน้ำ 1.31 ทุน 100 บาท ถ้าคุณแทงถูก คุณจะได้รับเงิน 1.31×100 = 131 บาท (ยังไม่รวมทุน)

ซึ่งมากกว่ายอดเงินเดิมพัน แต่หากคุณแทงผิด คุณจะเสียเงินเต็มจำนวน 100 บาท ซึ่งเท่ากับยอดเงินเดิมพัน

วิธีอ่าน ราคาบอล

การอ่าน ราคาบอล นั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่คุณต้องเข้าใจความหมายของตัวเลขต่างๆ ที่แสดงอยู่ในราคาบอลเท่านั้น

โดยปกติแล้ว ราคาบอลจะประกอบด้วย 3 ตัวเลข ได้แก่ ราคาต่อรองทีมเหย้า ราคาเสมอ และราคาต่อรองทีมเยือน

ตัวอย่างเช่น หากราคาบอลของแมตช์ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด vs ลิเวอร์พูล

คือ 1.50, 3.50, 5.00 ตามลำดับ นั่นหมายความว่า

• แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีราคาต่อรอง 50

หากคุณวางเดิมพัน 100 บาทในแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และทีมชนะ

คุณจะได้รับเงินรางวัล 150 บาท (100 x 1.50)

• ราคาเสมอคือ 50 หมายความว่า หากคุณวางเดิมพัน 100 บาทในผลเสมอ

และผลการแข่งขันออกมาเสมอ คุณจะได้รับเงินรางวัล 350 บาท (100 x 3.50)

• ลิเวอร์พูล มีราคาต่อรอง 00

หมายความว่า หากคุณวางเดิมพัน 100 บาทในลิเวอร์พูล และทีมชนะ

คุณจะได้รับเงินรางวัล 500 บาท (100 x 5.00)

โปรดจำไว้ว่า ตัวเลขราคาบอลเหล่านี้เป็นเพียงตัวเลขที่แสดงถึงความน่าจะเป็นที่ทีมใดทีมหนึ่งจะชนะ หรือแพ้เท่านั้น

ไม่ได้หมายความว่าทีมที่มีราคาต่อรองต่ำกว่าจะชนะเสมอไป ดังนั้น ก่อนที่คุณจะวางเดิมพัน ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับทีมต่างๆ และวิเคราะห์โอกาสในการชนะของแต่ละทีมให้ดีเสียก่อน

วิธีคำนวณบิลแทงบอล

การคำนวณบิลแทงบอลนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่คุณต้องรู้จักสูตรการคำนวณเบื้องต้นเท่านั้น โดยสูตรการคำนวณบิลแทงบอลมีดังนี้

เงินรางวัล = เงินเดิมพัน x ราคาบอล

ตัวอย่างเช่น หากคุณวางเดิมพัน 100 บาท ในทีมที่มีราคาบอล 2.00 และทีมนั้นชนะ คุณจะได้รับเงินรางวัล 200 บาท (100 x 2.00)

หากคุณวางเดิมพันหลายคู่

คุณสามารถคำนวณเงินรางวัลรวมได้ โดยการนำเงินเดิมพันของแต่ละคู่ มาคูณกับราคาบอลของคู่นั้นๆ แล้วนำมารวมกัน

ตัวอย่างเช่น หากคุณวางเดิมพัน 100 บาท ในทีมที่มีราคาบอล 2.00 และทีมนั้นชนะ และคุณวางเดิมพัน 100 บาท

ในทีมที่มี ราคาบอล 3.00 และทีมนั้นชนะ คุณจะได้รับเงินรางวัลรวม 500 บาท (100 x 2.00 + 100 x 3.00)

การที่เรามีความเข้าใจในค่าน้ำบอลหรือราคาบอลอย่างถูกต้องแล้ว และสามารถนำความรู้พื้นฐานนี้ไปใช้ในการวางเดิมพันได้อย่างมืออาชีพ เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักแทงบอลมืออาชีพ

อย่างไรก็ตาม การวางเดิมพันยังมีความเสี่ยงอยู่เสมอ ดังนั้นจำเป็นต้องใช้ความรู้และเทคนิคที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงในการแทงบอล

หวังว่าบทความนี้จะช่วยเสริมสร้างความเข้าใจและความมั่นใจในการวางเดิมพันบอลให้คุณได้ ขอบคุณที่อ่านจนจบ และขอให้คุณโชคดีในการแทงบอลนะครับ