ฟุตบอลโลก 2022 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มดี นัดสาม วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน 2565 สรุปจบเกม ระหว่าง ตูนิเซีย VS ฝรั่งเศส

เริ่มเกมแค่ 8 นาที ตูนิเซีย ส่งบอลซุกก้นตาข่ายได้ก่อน จากจังหวะที่ วาห์บี คาซรี เปิดฟรีคิกให้ นาเดอร์ กานดรี กระโดดสะกิดบอลเปลี่ยนทางผ่านมือ สตีฟ ม็องด็องดา เข้าไป แต่ยังไม่ได้ประตูขึ้นนำ เนื่องจาก กานดรี อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าก่อน

นาทีที่ 25 ฝรั่งเศส เกือบได้ประตูบ้าง ยุสซุฟ โฟฟานา ดึงจังหวะรอแนวรับเปิดพื้นที่ก่อนจ่ายให้ คิงส์เลย์ โกมาน เข้าไปยิงในเขตโทษ แต่ปีกจาก บาเยิร์น มิวนิก จับบอลแรกห่างตัว ก่อนยิงหลุดออกข้างเสาไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 35 ตูนิเซีย ที่ครองบอลบุกได้มากกว่า มีลุ้นทำประตูขึ้นนำอีกครั้งจากลูกยิงไกลของ วาห์บี คาซรี บอลพุ่งส่ายเล็กน้อย แต่ สตีฟ ม็องด็องดา ยังทุบทิ้งออกไปได้ จบครึ่งแรกยังเสมอ 0-0

ครึ่งหลัง นาทีที่ 58 ตูนิเซีย ที่กดดันอย่างต่อเนื่องมาได้ประตูนำ 1-0 จนได้ จากการแย่งบอลจาก ยุสซุฟ โฟฟานา ตรงกลางสนาม ก่อนต่อบอลมาให้ วาห์บี คาซรี เลี้ยงแหวกแนวรับฝรั่งเศส เข้าไปยิงสวนตัว สตีฟ ม็องดองดา ตุงตาข่าย

จากนั้น ฝรั่งเศส ก็ทยอยเปลี่ยนตัวจริงลงมา ทั้ง คีเลียน เอ็มบัปเป, อองตวน กรีซมันน์ และ อุสมาน เดมเบเล เพื่อหวังทวงประตูตีเสมอ นาทีที่ 89 เอ็มบัปเป เลี้ยงไต่เส้นหลัง แตะลอดขาแนวรับตูนิเซียแล้วยิงอัดมุมแคบ ยังติดเซฟ อัยเมน ดาห์เมน

เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม แม้ อองตวน กรีซมันน์ จะยิงเข้าไปในช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 90+8 แต่ก็โดนวีเออาร์ริบประตูคืน เนื่องจาก กรีซมันน์ กลับมาจากตำแหน่งล้ำหน้า

จบเกม ตูนิเซีย เฉือนชนะ 1-0 เก็บเพิ่มเป็น 4 คะแนน แต่ไม่เพียงพอเข้ารอบ เนื่องจาก ออสเตรเลีย ชนะ เดนมาร์ก 1-0 ทำให้ ตูนิเซีย จบอันดับ 3 ของกลุ่ม ตกรอบกลับบ้าน

ส่วน ฝรั่งเศส ยังเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มดี มี 6 แต้มเท่ากับ ออสเตรเลีย แต่ประตูได้-เสียดีกว่า (ฝรั่งเศส +3 / ออสเตรเลีย -1) ขณะที่ เดนมาร์ก มี 1 คะแนน จบอันดับสุดท้ายของกลุ่ม